เครื่องบรรจุขึ้นรูปโพลีสไตรีนแบบขยายสุญญากาศอัตโนมัติ (EPS)

เครื่องบรรจุขึ้นรูปแบบสูญญากาศ EPS อัตโนมัติแสดงถึงนวัตกรรมล้ำสมัยในด้านการผลิตผลิตภัณฑ์โพลีสไตรีน เป็นโซลูชันที่มีความซับซ้อนสูงซึ่งได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการผลิตสูงสุด ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ปฏิวัติวงการ โครงสร้างที่ทนทานและทนทาน และกลไกการควบคุมที่มีความแม่นยำสูง ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับความต้องการบรรจุภัณฑ์ร่วมสมัย

คุณสมบัติที่สำคัญ

1. โครงสร้างเครื่องจักรที่เป็นเอกลักษณ์

• ความแข็งแกร่งของเฟรมที่เพิ่มขึ้น: โครงด้านหลังและโครงที่เคลื่อนไหวได้ของเครื่องจักรได้รับการเสริมความแข็งแรงอย่างมาก โดยมีโครงสร้างตัวถังและเท้าที่ผสานกัน การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์นี้ไม่เพียงแต่ทำให้เครื่องจักรมีความทนทานที่โดดเด่น แต่ยังให้ความเสถียรที่โดดเด่นระหว่างการทำงานอีกด้วย การรวมเฟรมและขาเครื่องจักรเข้าด้วยกันอย่างแนบเนียนช่วยกระจายแรงเค้นและโหลดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของโครงสร้างและความแข็งแกร่งโดยรวมของเครื่องจักรได้อย่างมาก
• ทนทาน: มีการพ่นสเปรย์สังกะสีบนเฟรม ซึ่งทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง การรักษานี้ช่วยเพิ่มความต้านทานของเฟรมต่อการกัดกร่อนและการสึกหรอได้อย่างมาก ดังนั้นจึงปกป้องเครื่องจักรจากผลกระทบที่เป็นอันตรายของปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและความรุนแรงของการทำงานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อายุการใช้งานของเครื่องยาวนานขึ้นอย่างมาก จึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพในระยะยาวและเชื่อถือได้
• การออกแบบแถบผูก: เครื่องจักรมีแถบผูกทิศทางตรงกันข้าม ซึ่งได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาดเพื่อลดความซับซ้อนของขั้นตอนการบำรุงรักษา สายรัดเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านทานการสึกหรอได้ดีเยี่ยม ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ ท่อทองแดงแบบหล่อลื่นในตัวยังถูกนำมาใช้แทนบูชแบบเดิมอีกด้วย นวัตกรรมนี้นำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพการหล่อลื่นอย่างน่าทึ่ง ลดแรงเสียดทานและการสึกหรอระหว่างชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว และเพิ่มความราบรื่นในการทำงานโดยรวมและความน่าเชื่อถือของเครื่องจักร
• แผ่นเหล็กสแตนเลส: แผ่นป้องกันและแผ่นหลังผลิตจากสแตนเลสคุณภาพสูง การเลือกใช้วัสดุนี้มีความสำคัญเนื่องจากช่วยลดการเกิดสนิมและการสึกหรอได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยรักษาความแม่นยำของแม่พิมพ์ไว้เป็นระยะเวลานาน การใช้แผ่นเหล็กสแตนเลสไม่เพียงแต่รับประกันความแม่นยำด้านมิติของผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นรูปเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในคุณภาพโดยรวมและความสม่ำเสมอของผลลัพธ์สุดท้ายอีกด้วย

2. ระบบแรงดันไฮดรอลิก

• ความเร็วที่เพิ่มขึ้น: ระบบไฮดรอลิกของเครื่องนี้ได้รับการปรับปรุงให้ทำงานด้วยความเร็วที่สูงขึ้นอย่างมากที่ 250 มม./วินาที ตรงกันข้ามกับ 180 มม./วินาทีของรุ่นก่อนๆ ความเร็วที่เพิ่มขึ้นนี้แปลโดยตรงเป็นการลดรอบเวลา ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างมาก การทำงานที่เร็วขึ้นของกระบอกไฮดรอลิกช่วยให้เปิด ปิด และดีดแม่พิมพ์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มปริมาณงานโดยรวมของเครื่องจักร
• การล็อคเพื่อความปลอดภัย: ในระหว่างกระบวนการนึ่ง กระบอกไฮดรอลิกมีบทบาทสำคัญในการล็อคแม่พิมพ์อย่างแน่นหนา คุณลักษณะด้านความปลอดภัยนี้มีความสำคัญเนื่องจากสามารถป้องกันการรั่วไหลของไอน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจนำไปสู่ข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์ การสูญเสียพลังงาน และอันตรายด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการปิดผนึกที่แน่นหนา เครื่องสามารถรักษาแรงดันไอน้ำและอุณหภูมิที่ต้องการภายในโพรงแม่พิมพ์ได้ ช่วยให้เกิดการสร้างและการบ่มผลิตภัณฑ์โพลีสไตรีนที่เหมาะสม
• การทำงานพร้อมกัน: กระบอกสูบดีดออกและถอดแม่พิมพ์ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อให้ทำงานสอดประสานกันอย่างลงตัว โดยดำเนินการเป่าแก๊สและไล่ผลิตภัณฑ์ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดรอบเวลาให้เหลือน้อยที่สุด การดำเนินการแบบซิงโครไนซ์นี้ทำให้กระบวนการถอดขึ้นรูปมีความคล่องตัว เพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมและความสามารถในการผลิตของเครื่องจักร ด้วยการลดเวลาที่ต้องใช้ในแต่ละรอบการผลิต เครื่องจักรจึงสามารถผลิตผลิตภัณฑ์โพลีสไตรีนคุณภาพสูงในปริมาณมากขึ้นภายในกรอบเวลาที่กำหนด

3. ระบบ Steam ขั้นสูง

• การควบคุมที่แม่นยำ: เครื่องนี้ติดตั้งระบบ PID ที่ได้รับสิทธิบัตรของ Fang-Yuan ซึ่งแสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญในการควบคุมแรงดันไอน้ำ ระบบนี้สามารถรักษาแรงดันไอน้ำที่แม่นยำอย่างยิ่งในช่วง 0.10 - 0.15 MPa โดยมีพิกัดความเผื่อ ±0.1 MPa ที่แน่นอย่างน่าทึ่ง ด้วยการควบคุมแรงดันไอน้ำอย่างแม่นยำ เวลาทำความร้อนจะลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การใช้พลังงานลดลงอย่างมาก โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 25 - 30% ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลให้ประหยัดต้นทุนได้อย่างมาก แต่ยังช่วยให้กระบวนการผลิตมีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
• การควบคุมหน้าจอสัมผัส: สามารถปรับแรงดันไอน้ำและแรงดันแม่พิมพ์ได้อย่างสะดวกผ่านอินเทอร์เฟซหน้าจอสัมผัสที่ใช้งานง่าย วิธีการควบคุมที่ใช้งานง่ายนี้ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถตั้งค่าและปรับแต่งพารามิเตอร์ตามความต้องการเฉพาะของการดำเนินการผลิตที่แตกต่างกันได้อย่างง่ายดาย อินเทอร์เฟซหน้าจอสัมผัสให้การตอบรับแบบเรียลไทม์และการแสดงภาพ ช่วยให้มั่นใจถึงการทำงานที่แม่นยำและไม่ยุ่งยาก นอกจากนี้ยังทำให้กระบวนการฝึกอบรมสำหรับผู้ปฏิบัติงานรายใหม่ง่ายขึ้น ทำให้พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการใช้งานเครื่องจักรได้อย่างรวดเร็ว

4. ระบบท่อที่มีประสิทธิภาพ

• การออกแบบที่ปรับให้เหมาะสม: ระบบท่อของเครื่องได้รับการออกแบบอย่างปราณีตเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ท่อและวาล์วขนาดใหญ่ได้รับการจัดวางอย่างมีกลยุทธ์ใกล้กับแม่พิมพ์ เค้าโครงนี้ช่วยลดระยะทางที่ไอน้ำและของเหลวอื่นๆ ต้องเดินทาง ซึ่งช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งของเหลว นอกจากนี้ ส่วนประกอบที่อยู่ใกล้กันยังช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานของเครื่องจักร เนื่องจากเวลาตอบสนองสำหรับการฉีดไอน้ำและการถ่ายโอนของเหลวลดลงอย่างมาก การออกแบบท่อที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมนี้ช่วยให้การทำงานของเครื่องจักรมีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานโดยรวม

5. ระบบสุญญากาศ

• ระบบสุญญากาศแนวตั้ง: เครื่องมีระบบสุญญากาศแนวตั้งที่ติดตั้งท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ขนาด 4 - 6 นิ้ว และท่อระบายน้ำควบแน่นที่ขยายออกไป การกำหนดค่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการควบแน่นและการกำจัดไอน้ำ ท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ช่วยให้สามารถระบายคอนเดนเสทได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ท่อระบายน้ำควบแน่นที่ขยายออกให้พื้นที่ผิวเพิ่มเติมสำหรับการแลกเปลี่ยนความร้อน ช่วยให้การควบแน่นของไอน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• การควบคุมปริมาณน้ำ: การทำความเย็นแบบสุญญากาศถูกนำมาใช้เป็นวิธีทำความเย็นเบื้องต้น โดยจะใช้การทำความเย็นด้วยน้ำในระยะเวลาที่จำกัดเพียง 8 - 12 วินาทีเท่านั้น แนวทางนี้มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมปริมาณน้ำของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย โดยรับประกันว่าจะคงอยู่ที่หรือต่ำกว่า 10% ด้วยการลดปริมาณน้ำให้เหลือน้อยที่สุด คุณภาพและความเสถียรของมิติของผลิตภัณฑ์โพลีสไตรีนจึงได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ปริมาณน้ำที่ลดลงยังส่งผลให้ใช้เวลาในการทำให้แห้งสั้นลงและกระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• การบำรุงรักษาที่สะดวก: ส่วนหัวสเปรย์ของระบบสุญญากาศได้รับการออกแบบให้เปลี่ยนและบำรุงรักษาได้ง่าย คุณสมบัตินี้ช่วยให้สามารถให้บริการระบบสเปรย์ได้อย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก ลดเวลาหยุดทำงาน และรับประกันการทำงานอย่างต่อเนื่องของเครื่อง การออกแบบแบบโมดูลาร์ของส่วนหัวสเปรย์ช่วยให้เข้าถึงและเปลี่ยนส่วนประกอบแต่ละส่วนได้ง่าย ลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

6. ระบบควบคุมอัจฉริยะ

• การควบคุมที่ครอบคลุม: เครื่องจักรมีระบบควบคุมอัจฉริยะขั้นสูงที่ช่วยให้สามารถปรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับแรงดันจากระยะไกลได้ ซึ่งรวมถึงการควบคุมที่แม่นยำของกระบวนการนึ่งข้าม การนึ่งหลัก และกระบวนการเติม ระบบควบคุมยังมีโปรแกรมที่ปรับแต่งสำหรับพื้นที่เกิดฟองที่แตกต่างกัน ช่วยให้สามารถผลิตแบบกำหนดเองได้ตามความต้องการเฉพาะของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ มีระบบป้องกันตนเองและสัญญาณเตือนในตัวเพื่อให้มั่นใจถึงการทำงานของเครื่องจักรอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ ระบบเหล่านี้จะตรวจสอบพารามิเตอร์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และตรวจจับและแจ้งเตือนผู้ปฏิบัติงานโดยอัตโนมัติในกรณีที่มีข้อผิดพลาดใดๆ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องจักร และรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์
• ส่วนประกอบระดับพรีเมียม: เพื่อรับประกันความเสถียรและความน่าเชื่อถือของการทำงานของเครื่องจักร จึงได้ติดตั้งส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ไฮดรอลิก และวาล์วแบรนด์ระดับสากลระดับแนวหน้า ส่วนประกอบเหล่านี้มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพ ความทนทาน และคุณสมบัติทางเทคโนโลยีขั้นสูง การใช้ส่วนประกอบระดับพรีเมียมดังกล่าวไม่เพียงแต่รับประกันการทำงานที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพของเครื่องจักรเท่านั้น แต่ยังลดความเสี่ยงของการชำรุดและปัญหาการบำรุงรักษาด้วย ดังนั้นจึงเป็นโซลูชันระยะยาวและเชื่อถือได้สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์โพลีสไตรีน

เหตุใดจึงเลือกเครื่องขึ้นรูปรูปทรง EPS นี้

เครื่องขึ้นรูป EPS ที่ทันสมัยนี้ผสมผสานข้อดีของการทำงานด้วยความเร็วสูง ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีเยี่ยม และโครงสร้างที่ทนทานและทนทาน พร้อมด้วยความสามารถด้านระบบอัตโนมัติขั้นสูง ระบบควบคุมที่แม่นยำสูงและการออกแบบที่แข็งแกร่งทำให้เป็นโซลูชั่นที่ดีเยี่ยมสำหรับการบรรลุการผลิตบรรจุภัณฑ์ EPS ที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการผลิตทางอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หรือเพื่อตอบสนองความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์แบบกำหนดเอง เครื่องจักรนี้นำเสนอความน่าเชื่อถือ ประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นที่จำเป็นในการรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน

คำถามและคำตอบที่เกี่ยวข้อง

คำถามที่ 1: โครงสร้างตัวถังและเท้าแบบรวมของเครื่องช่วยเพิ่มความทนทานและความมั่นคงได้อย่างไร
คำตอบ: โครงสร้างตัวถังและเท้าที่ผสานรวมจะกระจายแรงกดและน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งเครื่อง จะช่วยลดความเข้มข้นของแรง ณ จุดเฉพาะ ซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายทางโครงสร้างและการเสียรูป ความทนทานที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยให้เครื่องจักรทนทานต่อการทำงานต่อเนื่องอันเข้มงวดในระยะเวลาอันยาวนาน เสถียรภาพได้รับการปรับปรุงเนื่องจากการออกแบบแบบบูรณาการช่วยลดการสั่นสะเทือนและการเคลื่อนไหวในระหว่างกระบวนการขึ้นรูป ทำให้มั่นใจได้ว่าแม่พิมพ์ได้รับการจัดตำแหน่งอย่างแม่นยำและผลิตภัณฑ์ได้รับการขึ้นรูปด้วยคุณภาพที่สม่ำเสมอ

คำถามที่ 2: ท่อทองแดงแบบหล่อลื่นในตัวในการออกแบบแถบผูกมีประโยชน์ต่อการทำงานของเครื่องจักรอย่างไร
คำตอบ: ท่อทองแดงแบบหล่อลื่นในตัวเองช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหล่อลื่นเมื่อเทียบกับบูชแบบเดิม ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการจ่ายน้ำมันหล่อลื่นอย่างต่อเนื่องและราบรื่นระหว่างชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ช่วยลดแรงเสียดทานและการสึกหรอ ส่งผลให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นสำหรับแถบผูกและส่วนประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังลดความจำเป็นในการหล่อลื่นด้วยตนเองบ่อยครั้ง ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา นอกจากนี้ แรงเสียดทานที่ลดลงยังช่วยให้การเคลื่อนที่ของแม่พิมพ์แม่นยำและมั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพโดยรวมของผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นรูป

คำถามที่ 3: ระบบ PID ที่ได้รับสิทธิบัตรของ Fang-Yuan ในระบบไอน้ำช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างไร
คำตอบ: ระบบ PID ที่ได้รับสิทธิบัตรของ Fang-Yuan ควบคุมแรงดันไอน้ำอย่างแม่นยำภายในช่วงแคบมาก (0.10 - 0.15 MPa โดยมีความทนทาน ±0.1 MPa) ด้วยการรักษาแรงดันไอน้ำที่ต้องการอย่างแม่นยำ จะช่วยหลีกเลี่ยงแรงดันเกินและการใช้ไอน้ำโดยไม่จำเป็น การควบคุมที่ได้รับการปรับปรุงนี้จะช่วยลดเวลาในการทำความร้อนเนื่องจากไอน้ำถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้การใช้พลังงานลดลง 25 - 30% เนื่องจากเครื่องจักรจะใช้ปริมาณไอน้ำที่จำเป็นสำหรับการขึ้นรูปและการบ่มผลิตภัณฑ์โพลีสไตรีนอย่างเหมาะสม แทนที่จะสิ้นเปลืองไอน้ำเนื่องจากการควบคุมแรงดันที่ไม่ถูกต้อง

คำถามที่ 4: เหตุใดการระบายความร้อนแบบสุญญากาศจึงเป็นที่นิยมมากกว่าการระบายความร้อนด้วยน้ำ และจะส่งผลต่อผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายอย่างไร
คำตอบ: ควรใช้การทำความเย็นแบบสุญญากาศเนื่องจากมีประสิทธิภาพมากกว่าในการขจัดความร้อนและการควบคุมปริมาณน้ำของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย ช่วยให้ไอน้ำควบแน่นและการระเหยอย่างรวดเร็ว ช่วยลดเวลาการทำความเย็นโดยรวม ด้วยการจำกัดการระบายความร้อนด้วยน้ำไว้ที่ 8 - 12 วินาที และอาศัยการทำความเย็นแบบสุญญากาศเป็นหลัก ปริมาณน้ำของผลิตภัณฑ์สามารถรักษาไว้ที่หรือต่ำกว่า 10% ปริมาณน้ำที่ต่ำนี้ช่วยเพิ่มความเสถียรของมิติและคุณภาพของผลิตภัณฑ์โพลีสไตรีน นอกจากนี้ยังช่วยลดเวลาการอบแห้งที่จำเป็นหลังการผลิต ช่วยให้กระบวนการผลิตมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คำถามที่ 5: โปรแกรมที่ระบบควบคุมอัจฉริยะออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับพื้นที่เกิดฟองที่แตกต่างกันมีประโยชน์ต่อกระบวนการผลิตอย่างไร
คำตอบ: โปรแกรมที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับพื้นที่เกิดฟองที่แตกต่างกันช่วยให้เครื่องจักรสามารถปรับตัวให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ ช่วยให้สามารถควบคุมกระบวนการเกิดฟองในส่วนต่างๆ ของแม่พิมพ์ได้อย่างแม่นยำ ทำให้มั่นใจได้ว่าแต่ละส่วนของผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปด้วยความหนาแน่นและรูปร่างที่ถูกต้อง การปรับแต่งนี้ช่วยปรับปรุงคุณภาพและความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย นอกจากนี้ยังช่วยให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากสามารถปรับเครื่องจักรได้อย่างรวดเร็วเพื่อผลิตรายการโพลีสไตรีนประเภทต่างๆ โดยไม่ต้องกำหนดค่าใหม่หรือหยุดทำงานอย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มผลผลิตโดยรวมและความยืดหยุ่นในกระบวนการผลิต